พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
ประวัติพ่อคำมา ...
ประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง
เมื่อพ่อคำมา เมตตาเล่าเรื่องชีวประวัติ (บางส่วน) ของท่าน ........จากคำบอกเล่าที่พ่อคำมาเมตตาบอกกล่าวเล่าให้พระอาจารย์เด่นดวง(จ๋อง) ฟัง เมื่อครั้งที่พระอาจารย์จ๋องได้สนทนากับพ่อคำมาท่าน

*กราบขอบพระคุณเนื้อหาข้อมูลโดย พระอาจารย์เด่นดวง(จ๋อง) ติสสโร วัดน้อยสามัคคี จ.ร้อยเอ็ด

** บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของพ่อคำมา หงษ์ทอง และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ศิษย์รุ่นหลัง หากมีเนื้อหารายละเอียดตกหล่น ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้

ชีวประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งลุ่มน้ำมูล ดินแดนอีสานใต้ จ.สุรินทร์
ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญไสยเวทย์ในทุกๆแขนง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเกจิดังมากมาย แต่มักไม่ค่อยได้เปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ ด้วยความที่ตัวพ่อคำมาท่านเองเป็นคนสมถะ ไม่ยึดติดกับชื่อเสียงและเงินทอง ทำให้ชื่อเสียงของท่านอาจจะเป็นเพียงการการรู้จักแค่ในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาเท่านั้น แต่ถ้าลองได้รู้ว่าท่านเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ผู้ใดบ้าง รับรองได้ว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ประกอบกับวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังอีกมากมายที่พ่อคำมาท่านได้เมตตาเสกไว้ ล้วนมีประสบการณ์จริงที่ไม่จำเป็นต้องโฆษณา......

ประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง เป็นการยากที่จะเรียบเรียงและเขียนได้ครบถ้วน เนื่องจากประวัติของพ่อคำท่าน ค่อนข้างไม่ประติดประต่อ เพราะท่านไม่ค่อยได้พูดติดต่อกันเป็นเรื่องราว ต้องอาศัยตอนที่ได้ไปพบกับท่านที ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังที บางครั้งก็เป็นการถามตอบเรื่องโน้นเรื่องนี้ พ่อคำท่านก็เล่าเรื่องราวย้อนหลังให้ฟัง ด้วยเหตุนี้เองในชีวประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่จะได้ทำการถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จะเขียนในเฉพาะเรื่องราวที่ได้ฟังมาจากปากท่านเท่านั้น และสิ่งไหนที่ไม่ได้ยินมาจากปากท่านก็จะไม่เขียนลงไป เพื่อความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งหากมีข้อมูลตกหล่นลงไปบ้างก็ต้องกราบขออภัยต่อท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูง

ในส่วนของวันเดือนปีเกิดของพ่อคำมา หงษ์ทอง ไม่สามารถระบุชี้ได้ชัดเจน เนื่องจากท่านเองได้มีการทำบัตรประชนในภายหลัง ซึ่งไม่ตรงกับวันเดือนปีเกิดจริง อย่างไรก็ดี ผู้เขียน(แอดมิน) เคยได้กราบเรียนสอบถามกับพ่อคำมา เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๘ ท่านบอกว่าอายุท่าน ๘๐ ปี กว่าปี

โดยในสมัยวัยเด็กของพ่อคำมา ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงอายุประมาณ ๑๔-๑๕ ปี โดยในช่วงที่บวชเป็นสามเณรก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี จากได้ก็ได้เริ่มออกธุดงค์ และได้ไปเรียนกับหลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาสรรพวิชาที่อื่นต่อ จนย่างเข้าสูวัยรุ่นก็ลาสิกขา และเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มก็ได้มาแต่งงานกับภรรยาคนแรกที่เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ และได้มีบุตรด้วยกัน ๒ คน โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนแรกไปสักระยะหนึ่งก็มีเหตุขัดข้องใจกับพ่อตา เป็นเหตุให้พ่อคำท่านเกิดความหน่ายในทางโลกและได้ตัดสินใจกลับไปบวชอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เองพ่อคำท่านได้ไปศึกษาวิชาจากหลวงพ่อถึก,หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)จนเดินทางไปได้พบอีกสุดยอดเกจิอาจารย์และได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต โดยเมื่อครั้งที่ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่ผาง พ่อคำได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ผางให้ช่วยเสกเหรียญของหลวงปู่ผางอยู่หนึ่งรุ่น หลังจากที่พ่อคำมาได้ศึกษาสรรพวิชาจากครูบาอาจารย์จนเจนจบแล้ว ก็ได้มาจำพรรษาที่บ้านหนองมะแซว อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และได้ช่วยสร้างวัดที่นี่และเป็นเจ้าอาวาสช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบเรื่อยมา

*** สรุป รายชื่อครูบาอาจารย์ของพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่ท่านได้ศึกษาสรรพวิชา
๑ หลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี
๒ หลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง
๓ หลวงพ่อถึก (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๔ หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๕ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๖ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต
๗ * ชีปะขาว (แอดมินเคยได้ฟังพ่อคำมาเล่าเรื่องชีปะขาว กับหลวงปู่เทพโลกอุดร)
๘ ฯลฯ

ในช่วงที่พ่อคำมาได้บรรพชาอยู่นั้น ได้มีผู้มาขอลองวิชาชื่ออาจารย์แก้ว จนพ่อคำมาได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นกับตา จนได้กราบขอฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมานับแต่นั้นเป็นต้นมา เรียกได้ว่าเป็นศิษย์ยุคแรกของพ่อคำมาที่ท่านรับเป็นศิษย์ หลังจากที่อาจารย์แก้วได้ฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาแล้วนั้น อาจารย์แก้วก็ได้ไปชวนอาจารย์เฉลิมชัย วัดครืมในหนองนาหล้า และก็โยมอีกท่านหนึ่งชื่อสมบูรณ์ บ้านเหล่าหาด ไปเรียนวิชาจากพ่อคำมาด้วยกันทั้ง ๓ คน ซึ่งเป็นศิษย์ยุคแรกๆของพ่อคำมา ซึ่งศิษย์ในยุคนั้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คงเห็นจะเป็นอาจารย์แก้ว

ช่วงก่อนที่อาจารย์แก้วจะไปขอเรียนวิชากับพ่อคำมา ท่านก็ได้เล่าอิทธิปาฏิหาริย์ของพ่อคำมา เนื่องด้วยในยุคนั้นพ่อคำมามีกิติศัพท์ด้านคงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือ อาจารย์แก้วจึงได้เดินทางไปพบพ่อคำมา เมื่ออาจารย์แก้วได้พบพ่อคำมา จึงได้เอ่ยถามกับพ่อคำมาว่า“มีวิชามหาอุดคงกระพันไหม” พ่อคำมาก็เลยตอบกลับอาจารย์ไปว่า “เอ้ย!! ไม่มีหรอกน้อง อุดธัง อุดโธ อุดปากกระบอก ปืนมันก็เป็นรูอยู่เหมื่อนเดิมนั่นแหละ” เมื่ออาจารย์แก้วได้ฟังแบบนั้นก็ไม่พอใจพ่อคำมาเป็นอย่างมาก ท่านก็เลยชวนเพื่อที่ไปด้วยชื่อถมกลับ พร้อมพูดว่า “เฮ้ยถม!! กลับเว้ย กูนึกว่าจะมีอะไรดี” เมื่อพ่อคำได้ยินอาจารย์แก้วพูดแบบนั้นจึงพูดสวนกลับไปว่า “เฮ้ยน้อง มึงอย่าเพิ่งกลับ มึงดูอะไรนี่” พร้อมหยิบมีดโกนตราตา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคมมากในสมัยนั้น มาทำการปาดลิ้น ปาดคอตัวเองให้ดู เมื่ออาจารย์แก้วและโยมถมได้เห็นเช่นนั้น ก็ได้รีบเข้าไปกราบขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังจากนั้นชื่อเสียงของพ่อคำมาก็ได้โด่งดังไปทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด มีลูกศิษย์ลูกหามาทำการสักยันต์และขอเรียนวิชากันมากมาย อักขระยันต์ที่พ่อคำมาได้สักและได้เขียนลงบนแผ่นตะกรุดให้กับลูกศิษย์ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือ ทำให้มีคนมาขอลองของกันมากมาย ครั้งหนึ่งยุคหลังช่วงท้ายก่อนที่พ่อคำมาจะลาสิกขา ได้มีคนมาท้าลองของกับท่าน โดยได้พูดปรามาสท่านว่า “ไหนอาจารย์คำ เขาว่ายิงอาจารย์คำไม่ออกจริงหรือปล่าว” ซึ่งทำให้พ่อคำมาไม่พอใจต่อคำปรามาสนั้นเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านได้กล่าวออกไปว่า “เฮ้ย !! มึงจะมายิงพระได้ยังไง ยิงพระมันบาป ถ้าอยากจะยิงจริงๆให้กูสึกก่อน” วันเวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งพ่อคำมาได้ลาสิกขา พ่อคำมาได้นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวไปหาผู้ที่เคยกล่าวปรามาสไว้กับท่าน และพูดไปว่า “อยากยิงมึงยิงเลย” สิ้นเสียงท้าของพ่อคำมา ผู้ที่ลองของพ่อคำมาได้ขว้าอาวุธปืนและเล็งยิงเข้าไปที่พ่อคำ แต่ปืนยิงไม่ออก พ่อคำมาจึงเดินเข้าไปหาและบอกพวกคิดจะลองดีพวกนั้นว่า “ถ้ายิงไม่ออกคราวนี้กูยิงมึงมั่ง” หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อคำมา ก็ได้เดินทางออกจากบ้านหนองมะแซว กลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์และใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน

พ่อคำมา หงษ์ทอง ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราอย่างสงบ เมื่อเมื่อช่วงเช้า วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘
สิริอายุตามบัตรประชาชน ๗๑ ปี โดยถึงแม้พ่อคำมาจะจากไปแล้วแต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายเป็นที่เคารพและศรัทธาต่อศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทยจนถึงปัจจุบัน
ผู้เข้าชม
3681 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
โชว์พระ
ชื่อร้าน
บี บุรีรัมย์
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
thanamat624
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 773-2-28000-9

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Leksoi8NongBossPuthon161930jazzsiam amuletจิ๊บพุทธะมงคลว.ศิลป์สยาม
ภูมิ IRaonsamuiยุ้ย พลานุภาพเสน่ห์พระเครื่องsomemanLungchad
kumphaแมวดำ99sun99พีพีพระสมเด็จเทพจิระบี บุรีรัมย์
tplasPopgomesเอ็ม คงกะพันBeerchang พระเครื่องholypanyadvmfuchoo18
ยอด วัดโพธิ์Achinattapong939termboonน้ำตาลแดงSpiderman

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1705 คน

เพิ่มข้อมูล

ประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง


  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
ประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง
รายละเอียด
เมื่อพ่อคำมา เมตตาเล่าเรื่องชีวประวัติ (บางส่วน) ของท่าน ........จากคำบอกเล่าที่พ่อคำมาเมตตาบอกกล่าวเล่าให้พระอาจารย์เด่นดวง(จ๋อง) ฟัง เมื่อครั้งที่พระอาจารย์จ๋องได้สนทนากับพ่อคำมาท่าน

*กราบขอบพระคุณเนื้อหาข้อมูลโดย พระอาจารย์เด่นดวง(จ๋อง) ติสสโร วัดน้อยสามัคคี จ.ร้อยเอ็ด

** บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของพ่อคำมา หงษ์ทอง และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ศิษย์รุ่นหลัง หากมีเนื้อหารายละเอียดตกหล่น ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้

ชีวประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งลุ่มน้ำมูล ดินแดนอีสานใต้ จ.สุรินทร์
ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญไสยเวทย์ในทุกๆแขนง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเกจิดังมากมาย แต่มักไม่ค่อยได้เปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ ด้วยความที่ตัวพ่อคำมาท่านเองเป็นคนสมถะ ไม่ยึดติดกับชื่อเสียงและเงินทอง ทำให้ชื่อเสียงของท่านอาจจะเป็นเพียงการการรู้จักแค่ในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาเท่านั้น แต่ถ้าลองได้รู้ว่าท่านเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ผู้ใดบ้าง รับรองได้ว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ประกอบกับวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังอีกมากมายที่พ่อคำมาท่านได้เมตตาเสกไว้ ล้วนมีประสบการณ์จริงที่ไม่จำเป็นต้องโฆษณา......

ประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง เป็นการยากที่จะเรียบเรียงและเขียนได้ครบถ้วน เนื่องจากประวัติของพ่อคำท่าน ค่อนข้างไม่ประติดประต่อ เพราะท่านไม่ค่อยได้พูดติดต่อกันเป็นเรื่องราว ต้องอาศัยตอนที่ได้ไปพบกับท่านที ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังที บางครั้งก็เป็นการถามตอบเรื่องโน้นเรื่องนี้ พ่อคำท่านก็เล่าเรื่องราวย้อนหลังให้ฟัง ด้วยเหตุนี้เองในชีวประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่จะได้ทำการถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จะเขียนในเฉพาะเรื่องราวที่ได้ฟังมาจากปากท่านเท่านั้น และสิ่งไหนที่ไม่ได้ยินมาจากปากท่านก็จะไม่เขียนลงไป เพื่อความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งหากมีข้อมูลตกหล่นลงไปบ้างก็ต้องกราบขออภัยต่อท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูง

ในส่วนของวันเดือนปีเกิดของพ่อคำมา หงษ์ทอง ไม่สามารถระบุชี้ได้ชัดเจน เนื่องจากท่านเองได้มีการทำบัตรประชนในภายหลัง ซึ่งไม่ตรงกับวันเดือนปีเกิดจริง อย่างไรก็ดี ผู้เขียน(แอดมิน) เคยได้กราบเรียนสอบถามกับพ่อคำมา เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๘ ท่านบอกว่าอายุท่าน ๘๐ ปี กว่าปี

โดยในสมัยวัยเด็กของพ่อคำมา ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงอายุประมาณ ๑๔-๑๕ ปี โดยในช่วงที่บวชเป็นสามเณรก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี จากได้ก็ได้เริ่มออกธุดงค์ และได้ไปเรียนกับหลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาสรรพวิชาที่อื่นต่อ จนย่างเข้าสูวัยรุ่นก็ลาสิกขา และเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มก็ได้มาแต่งงานกับภรรยาคนแรกที่เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ และได้มีบุตรด้วยกัน ๒ คน โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนแรกไปสักระยะหนึ่งก็มีเหตุขัดข้องใจกับพ่อตา เป็นเหตุให้พ่อคำท่านเกิดความหน่ายในทางโลกและได้ตัดสินใจกลับไปบวชอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เองพ่อคำท่านได้ไปศึกษาวิชาจากหลวงพ่อถึก,หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)จนเดินทางไปได้พบอีกสุดยอดเกจิอาจารย์และได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต โดยเมื่อครั้งที่ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่ผาง พ่อคำได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ผางให้ช่วยเสกเหรียญของหลวงปู่ผางอยู่หนึ่งรุ่น หลังจากที่พ่อคำมาได้ศึกษาสรรพวิชาจากครูบาอาจารย์จนเจนจบแล้ว ก็ได้มาจำพรรษาที่บ้านหนองมะแซว อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และได้ช่วยสร้างวัดที่นี่และเป็นเจ้าอาวาสช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบเรื่อยมา

*** สรุป รายชื่อครูบาอาจารย์ของพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่ท่านได้ศึกษาสรรพวิชา
๑ หลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี
๒ หลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง
๓ หลวงพ่อถึก (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๔ หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๕ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๖ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต
๗ * ชีปะขาว (แอดมินเคยได้ฟังพ่อคำมาเล่าเรื่องชีปะขาว กับหลวงปู่เทพโลกอุดร)
๘ ฯลฯ

ในช่วงที่พ่อคำมาได้บรรพชาอยู่นั้น ได้มีผู้มาขอลองวิชาชื่ออาจารย์แก้ว จนพ่อคำมาได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นกับตา จนได้กราบขอฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมานับแต่นั้นเป็นต้นมา เรียกได้ว่าเป็นศิษย์ยุคแรกของพ่อคำมาที่ท่านรับเป็นศิษย์ หลังจากที่อาจารย์แก้วได้ฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาแล้วนั้น อาจารย์แก้วก็ได้ไปชวนอาจารย์เฉลิมชัย วัดครืมในหนองนาหล้า และก็โยมอีกท่านหนึ่งชื่อสมบูรณ์ บ้านเหล่าหาด ไปเรียนวิชาจากพ่อคำมาด้วยกันทั้ง ๓ คน ซึ่งเป็นศิษย์ยุคแรกๆของพ่อคำมา ซึ่งศิษย์ในยุคนั้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คงเห็นจะเป็นอาจารย์แก้ว

ช่วงก่อนที่อาจารย์แก้วจะไปขอเรียนวิชากับพ่อคำมา ท่านก็ได้เล่าอิทธิปาฏิหาริย์ของพ่อคำมา เนื่องด้วยในยุคนั้นพ่อคำมามีกิติศัพท์ด้านคงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือ อาจารย์แก้วจึงได้เดินทางไปพบพ่อคำมา เมื่ออาจารย์แก้วได้พบพ่อคำมา จึงได้เอ่ยถามกับพ่อคำมาว่า“มีวิชามหาอุดคงกระพันไหม” พ่อคำมาก็เลยตอบกลับอาจารย์ไปว่า “เอ้ย!! ไม่มีหรอกน้อง อุดธัง อุดโธ อุดปากกระบอก ปืนมันก็เป็นรูอยู่เหมื่อนเดิมนั่นแหละ” เมื่ออาจารย์แก้วได้ฟังแบบนั้นก็ไม่พอใจพ่อคำมาเป็นอย่างมาก ท่านก็เลยชวนเพื่อที่ไปด้วยชื่อถมกลับ พร้อมพูดว่า “เฮ้ยถม!! กลับเว้ย กูนึกว่าจะมีอะไรดี” เมื่อพ่อคำได้ยินอาจารย์แก้วพูดแบบนั้นจึงพูดสวนกลับไปว่า “เฮ้ยน้อง มึงอย่าเพิ่งกลับ มึงดูอะไรนี่” พร้อมหยิบมีดโกนตราตา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคมมากในสมัยนั้น มาทำการปาดลิ้น ปาดคอตัวเองให้ดู เมื่ออาจารย์แก้วและโยมถมได้เห็นเช่นนั้น ก็ได้รีบเข้าไปกราบขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังจากนั้นชื่อเสียงของพ่อคำมาก็ได้โด่งดังไปทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด มีลูกศิษย์ลูกหามาทำการสักยันต์และขอเรียนวิชากันมากมาย อักขระยันต์ที่พ่อคำมาได้สักและได้เขียนลงบนแผ่นตะกรุดให้กับลูกศิษย์ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือ ทำให้มีคนมาขอลองของกันมากมาย ครั้งหนึ่งยุคหลังช่วงท้ายก่อนที่พ่อคำมาจะลาสิกขา ได้มีคนมาท้าลองของกับท่าน โดยได้พูดปรามาสท่านว่า “ไหนอาจารย์คำ เขาว่ายิงอาจารย์คำไม่ออกจริงหรือปล่าว” ซึ่งทำให้พ่อคำมาไม่พอใจต่อคำปรามาสนั้นเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านได้กล่าวออกไปว่า “เฮ้ย !! มึงจะมายิงพระได้ยังไง ยิงพระมันบาป ถ้าอยากจะยิงจริงๆให้กูสึกก่อน” วันเวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งพ่อคำมาได้ลาสิกขา พ่อคำมาได้นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวไปหาผู้ที่เคยกล่าวปรามาสไว้กับท่าน และพูดไปว่า “อยากยิงมึงยิงเลย” สิ้นเสียงท้าของพ่อคำมา ผู้ที่ลองของพ่อคำมาได้ขว้าอาวุธปืนและเล็งยิงเข้าไปที่พ่อคำ แต่ปืนยิงไม่ออก พ่อคำมาจึงเดินเข้าไปหาและบอกพวกคิดจะลองดีพวกนั้นว่า “ถ้ายิงไม่ออกคราวนี้กูยิงมึงมั่ง” หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อคำมา ก็ได้เดินทางออกจากบ้านหนองมะแซว กลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์และใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน

พ่อคำมา หงษ์ทอง ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราอย่างสงบ เมื่อเมื่อช่วงเช้า วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘
สิริอายุตามบัตรประชาชน ๗๑ ปี โดยถึงแม้พ่อคำมาจะจากไปแล้วแต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายเป็นที่เคารพและศรัทธาต่อศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทยจนถึงปัจจุบัน
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
3694 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
บี บุรีรัมย์
URL
เบอร์โทรศัพท์
0926924256
ID LINE
thanamat624
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 773-2-28000-9




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี